การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ตอน1 กิจการใดบ้างต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ภาษีมูลค่าเพิ่มคืออะไร?
 
ภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นภาษีทางอ้อมที่จัดเก็บบนพื้นฐานของการบริโภค ผู้ที่ต้องรับภาระภาษีมูลค่าเพิ่มที่แท้จริงคือ
ผู้บริโภคที่เกิดจากการซื้อสินค้าหรือการรับบริการ

 
ใครบ้างต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ?
 
กฎหมายกำหนดให้ผู้ประกอบการซึ่งขายสินค้าหรือให้บริการในทางธุรกิจหรือวิชาชีพไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิต ผู้ให้บริการ ผู้ขายส่ง ผู้ขาย-ปลีก ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก ฯลฯ และไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา คณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล หรือนิติบุคคล (ไม่จำกัดเฉพาะนิติบุคคลที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเท่านั้น) หากผู้ประกอบการมีรายรับหรือมูลค่าของฐานภาษีเกิน 1,800,000 บาทต่อปี ผู้ประกอบการดังกล่าวมีหน้าที่ต้องยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
 
แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการซึ่งขายสินค้าหรือให้บริการในทางธุรกิจหรือวิชาชีพ อาจจะได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มและไม่อยู่ในบังคับต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มก็ได้ หากเป็นผู้ประกอบการที่ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มดังต่อไปนี้ (ดูรายละเอียดกิจการที่ได้รับยกเว้นได้ที่ >> http://www.rd.go.th/publish/7052.0.html)

1. ผู้ประกอบการที่ประกอบกิจการขายสินค้าทางการเกษตรหรือสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับการเกษตร หรือให้บริการบางประเภท ซึ่งได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่น การขายพืชผลทาง การเกษตร การขายสัตว์ การขายปุ๋ย การขายปลาป่น อาหารสัตว์ การขายยาหรือเคมีภัณฑ์ ที่ใช้สำหรับพืชหรือสัตว์ การให้บริการทางการศึกษาของสถานศึกษา การให้บริการประกอบโรคศิลปะ การสอบบัญชี การว่าความ การให้บริการตามสัญญาจ้างแรงงาน การให้บริการขนส่งใน ราชอาณาจักร เป็นต้น ซึ่งมีเหตุผลในการยกเว้นก็เพื่อเป็นการส่งเสริม สนับสนุนกิจการขายสินค้าและให้บริการดังกล่าว ซึ่งมีผลเป็นการบรรเทาภาระในการต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การเสียภาษีมูลค่าเพิ่มต่างๆ ลง และอีกเหตุผลหนึ่ง ก็คือ การประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการ ดังกล่าวมีความยุ่งยากในการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม

2. ผู้ประกอบการที่ประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการ โดยกิจการนั้นเป็นกิจการขนาดย่อม คือกิจการที่มีรายรับหรือมูลค่าของฐานภาษีไม่เกิน 1,800,000 บาทต่อปี เพื่อเป็น การบรรเทาภาระในการต้องปฏิบัติในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมทั้งรายจ่ายต่างๆ ที่ต้องปฏิบัติในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่น ภาระในการต้องจัดทำใบกำกับภาษีมูลค่าเพิ่ม รายงานภาษีต่างๆ เป็นต้น

หากเป็นกิจการที่ได้รับยกเว้นแล้ว แต่ต้องการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม จะทำได้หรือไม่? 

ผู้ประกอบการที่ได้รับยกเว้นภาษี มูลค่าเพิ่มบางประเภท แม้จะไม่มีหน้าที่ต้อง จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มก็ตาม แต่หากต้องการที่จะใช้ประโยชน์จากการเข้าสู่ระบบการเป็น ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้ประกอบการดังกล่าวก็อาจจะเลือกเข้ามาจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนได้ โดยดำเนินการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 81/3 ผู้ประกอบการที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มดังกล่าว ได้แก่

1. ผู้ประกอบการที่ประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการตามมาตรา 81(1)(ก) ถึง (ฉ) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่ง
    ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
2. ผู้ประกอบการที่ประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการ โดยกิจการนั้นเป็นกิจการขนาดย่อมตามมาตรา 81/1
    แห่งประมวล- รัษฎากร ซึ่งก็คือ กิจการที่มีรายรับหรือมูลค่าของฐานภาษีไม่เกิน 1,800,000 บาทต่อปี
3. ผู้ประกอบการที่ประกอบอื่นตามที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา ซึ่งได้แก่
       (ก) ผู้ประกอบการให้บริการขนส่งในราชอาณาจักรโดยอากาศยาน4
       (ข) การส่งออกของผู้ประกอบการในเขตอุตสาหกรรมส่งออกตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่ง
             ประเทศไทย
       (ค) การให้บริการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงทางท่อในราชอาณาจักร6
 
(Credit: http://www.sanpakornsarn.com/)

ข้อควรระวัง!! บุคคลธรรมดาหากประกอบกิจการที่ไม่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม หากมีรายรับเกินกว่า 1,800,000 บาทต่อปี ก็ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเช่นกัน
 

สรุปได้ว่า ผู้มีหน้าที่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ก็คือ ใครก็ตามที่ประกอบกิจการทั้งการขายสินค้าและให้บริการในประเทศไทย หรือผู้นำเข้า ที่มีรายรับหรือฐานภาษีเกิน 1,800,000 บาทต่อปี โดยหากเป็นกิจการที่ได้รับยกเว้น ก็ไม่ต้องจดทะเบียน ทั้งนี้สำหรับกิจการที่ได้รับยกเว้นบางประเภทที่กำหนดไว้อาจเลือกที่จะขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มก็ได้ หากต้องการใช้ประโยชน์จากเครดิตภาษีซื้อ

>>> ต้องการคำปรึกษา ติดต่อผู้สอบบัญชีเพื่อขอคำปรึกษาได้ที่ www.worldthaiaudit.com <<<

This entry was posted on วันศุกร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2558. You can follow any responses to this entry through the RSS 2.0. You can leave a response.

Leave a Reply